[[ ลับเฉพาะ แจกฟรี]] แนวข้อสอบนักวิชาการแรงงาน สำนักงานประกันสังคม ล่าสุด 2567

1 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

แนวข้อสอบนักวิชาการแรงงาน สำนักงานประกันสังคม ล่าสุด 2567

เฉลยข้อสอบที่ ข้อมูลอัพเดตที่ https://www.sso.go.th/eform_news/

แนวข้อสอบกฎหมายประกันสังคม

1. กฎหมายประกันสังคม เป็นกฎหมายที่มีลักษณะอย่างไร

一. เป็นกฎหมายที่กำหนดการให้หลักประกันแก่บุคคลในสังคมที่มีปัญหาเนื่องจากการประสบเคราะห์ภัย

二. เป็นกฎหมายที่กำหนดการให้หลักประกันแก่บุคคลที่มีเหตุการณ์อันทำให้เกิดปัญหาในการดำรงชีพ ซึ่งต้องการได้รับความช่วยเหลือ

三. เป็นกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะแก่บุคคลโดยการรวบรวมเงินเข้าเป็นกองทุนและจ่ายเงินช่วยเหลือ

四. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง. ถูกทุกข้อ

2. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับลูกจ้างซึ่งมีฐานะเป็นผู้ประกันตน

一. บุคคลที่สมัครเข้าทำงานในสถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างรวมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป

二. บุคคลที่สมัครเข้าทำงานในสถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างรวมกันตั้งแต่ 15 คนขึ้นไป

三. บุคคลที่สมัครเข้าทำงานในสถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างรวมกันตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป

四. บุคคลที่สมัครเข้าทำงานในสถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างรวมกันตั้งแต่กี่คนขึ้นไปก็ได้

ตอบ ค. บุคคลที่สมัครเข้าทำงานในสถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างรวมกันตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป

3. เมื่อพ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง ลูกจ้างยังคงมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในการรับบริการทางการแพทย์ต่อไปได้อีกกี่เดือน นับจากวันสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง

一. 3 เดือน ค. 8 เดือน

二. 6 เดือน ง. 10 เดือน

ตอบ ข. 6 เดือน

4. กฎหมายประกันสังคมไม่ใช้บังคับแก่ใคร

一. ข้าราชการ และลูกจ้างประจำของหน่วยราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น

二. ลูกจ้างของรัฐบาลต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ

三. ลูกจ้างงานบ้านอันมิได้มีการประกอบธุรกิจรวมอยู่ด้วย

四. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง. ถูกทุกข้อ

5. ลูกจ้างจะไม่เป็นผู้ประกันตนอีกต่อไปในกรณีใด

一. ตาย ค. ลาออก

二. สิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง ง. ถูกทั้ง ก และ ข

ตอบ ง. ถูกทั้ง ก และ ข

6. ข้อใดคือหน้าที่ของนายจ้าง

一. ยื่นแบบรายการแสดงรายชื่อลูกจ้าง อัตราค่าจ้าง

二. จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมร่วมกับผู้ประกันตนหรือลูกจ้างและรัฐบาลฝ่ายละเท่าๆกัน

三. หักค่าจ้างของผู้ประกันตนที่เป็นลูกจ้างตามจำนวนที่จะต้องเป็นเงินสมทบ

四. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง. ถูกทุกข้อ

7. นายจ้างต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมสำหรับการประกันกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยนอกงาน คลอดบุตร ทุพพลภาพ และตาย ไม่เกินร้อยละเท่าใด ของค่าจ้าง

一. ร้อยละ 1 ค. ร้อยละ 3

二. ร้อยละ 1.5 ง. ร้อยละ 5

ตอบ ข. ร้อยละ 1.5

8. นายจ้างต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมสำหรับการประกันกรณีสงเคราะห์บุตรและชราภาพ ไม่เกินร้อยละเท่าใด ของค่าจ้าง

一. ร้อยละ 1 ค. ร้อยละ 3

二. ร้อยละ 1.5 ง. ร้อยละ 5

ตอบ ค. ร้อยละ 3

9. นายจ้างต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมสำหรับกรณีประกันการว่างงาน ไม่เกินร้อยละเท่าใด ของค่าจ้าง

一. ร้อยละ 1 ค. ร้อยละ 3

二. ร้อยละ 1.5 ง. ร้อยละ 5

ตอบ ง. ร้อยละ 5

10. นายจ้างจะต้องหักค่าจ้างของผู้ประกันตนที่เป็นลูกจ้างตามจำนวนที่จะต้องเป็นเงินสมทบในส่วนของลูกจ้างและนำส่งสำนักงานประกันสังคมภายในวันที่เท่าใด ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการหักเงินสมทบ

一. 1 ค. 30

二. 15 ง. 10

ตอบ ข. 15

หรือ

แนวข้อสอบ

นักวิชาการแรงงานสำนักประกันสังคม

1. ข้อใดคือกฎหมายประกันสังคมที่ใช้บังคับในปัจจุบัน

一. พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2534

二. พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533

三. พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545

四. พระราชบัญญัติจัดคนงานและคุ้มครองคนงาน พ.ศ. 2528

ตอบ ข. พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533

2. พ.ร.บ.ประกันสังคมใช้บังคับตั่งแต่วันที่เท่าใด

一. 2 กันยายน 2533 ค. 2 กันยายน 2534

二. 2 กันยายน 2545 ง. 2 กันยายน 2528

ตอบ ก. 2 กันยายน 2533

3. ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคมได้กำหนดให้สถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างตั่งแต่กี่คนขึ้นไป

一. 50 คนขึ้นไป ค. 30 คนขึ้นไป

二. 20 คนขึ้นไป ง. 10 คนขึ้นไป

ตอบ ข. 20 คนขึ้นไป

4. แต่เมื่อพ้นกำหนด 3 ปี นับตั่งแต่กฎหมายใช้บังคับพ.ร.บ.ประกันสังคมได้ขยายไปยังกิจการที่มีลูกจ้างตั่งแต่กี่คนขึ้นไป

一. 50 คนขึ้นไป ค. 30 คนขึ้นไป

二. 20 คนขึ้นไป ง. 10 คนขึ้นไป

ตอบ ง. 10 คนขึ้นไป

5. ข้อใดกล่าวผิด

一. ภายหลังกิจการมีลูกจ้างไม่เหลือถึงจำนวนที่กฎหมายกำหนด กิจการก็ยังอญุ่ภายใต้กฎหมายต่อไป

二. ลูกจ้างที่ทำงานในกิจการยังเป็นผู้ประกันตนต่อไป

三. ลูกจ้างก็ยังเป็นผู้ประกันตนแม้จะลาออกจากกิจการนั้นแล้ว

四. ลูกจ้างที่ทำงานใหม่ต้องเข้าเป็นผู้ประกันตนแม้กิจการจะมีลูกจ้างทั้งเก่าและใหม่ไม่ถึง 20 คน

ตอบ ค. ลูกจ้างก็ยังเป็นผู้ประกันตนแม้จะลาออกจากกิจการนั้นแล้ว

6. ข้อใดต่อไปนี้ที่กฎหมายประกันสังคมไม่ใช้บังคับ

一. ข้าราชการ ค. ลูกจ้างรัฐบาลต่างประเทศ

二. ครูโรงเรียนเอกชน ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง. ถูกทุกข้อ

7. บุคคลหรือกิจการที่กฎหมายประกันสังคมไม่ใช้บังคับ ได้แก่

1. ข้าราชการ และลูกจางประจำของหน่วยราชการสวนกลาง สวนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น (มาตรา 4 (1)

2. ลูกจ้างของรัฐบาลตางประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ (มาตรา 4 (2))

3. ลูกจ้างของนายจ้างที่มีสำนักงานในประเทศและไปประจำทำงานในต่างประเทศ(มาตรา 4(3)

4. ครูหรือครูใหญ่ของโรงเรียนเอกชน (มาตรา 4 (4))

5. นักเรียน นักเรียนพยาบาล นิสิตหรอนักศึกษา หรือแพทย์ฝึกหัด ซึ่งเป็นลูกจ้างของโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย หรือโรงพยาบาล (มาตรา 4 (5))

6. ลูกจ้างงานบ้านอันมิได้มีการประกอบธุรกิจรวมอยู่ด้วย (มาตรา 5)

7. กิจการหรือลกจ้างอื่นตามพระราชกฤษฎีกา (มาตรา 4 (6))

กิจการหรือลกจ้างอื่นตามพระราชกฤษฎีกา (มาตรา 4 (6))

8. กิจการหรือลูกจ้างอื่นตามพระราชกฤษฎีกา (มาตรา 4 (6)) ใช้บังคับตั่งแต่วันที่เท่าใด

一. 1 ตุลาคม 2533 ค. 1 ตุลาคม 2535

二. 1 ตุลาคม 2534 ง. 1 ตุลาคม 2536

ตอบ ข. 1 ตุลาคม 2534

9. ข้อใดคือกิจการหรือลูกจ้างอื่นตามพระราชกฤษฎีกา (มาตรา 4 (6))

一. ข้าราชการ ค. ครูเอกชน

二. ลูกจ้างของสภากาชาติไทย ง. นักเรียนพยาบาล

ตอบ ข. ลูกจ้างของสภากาชาติไทย

กิจการหรือลูกจ้างอื่นตามพระราชกฤษฎีกา (มาตรา 4 (6)) ได้แก่

ลูกจ้างของสภากาชาติไทย ลูกจ้างและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ลูกจ้างของกิจการเพราะปลูก ประมง ป่าไม้ และเลี้ยงสัตว์ ซึ่งมิใช่ลูกจ้างตลอดปี และไม่มีงานลักษณะอื่นรวมอยู่ด้วย และลูกจ้างในงานลักษณะเป็นครั้งคราว เป็นการจร หรือไปตามฤดูกาล

10. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับผู้ประกันตน

一. ลูกจ้าง

二. ผู้ที่สมัครเข้าทำงานในสถานประกอบการที่มีลูกจ้างรวมกันตั่งแต่ 20 คนขึ้นไป

三. ผู้ที่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม

四. ถูกทุกข้อ

ตอบ ง. ถูกทุกข้อ

แนวข้อสอบ

พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘

1. ใครคือผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

一. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม

二. รัฐมนตรีว่าการกระทรวง

三. รัฐมนตรีว่าการกระทรวง

四. รัฐมนตรีว่าการกระทรวง

ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม

2. "ตัวแทนจัดหางาน" หมายความว่าอย่างไร

一. ผู้รับใบอนุญาตจัดหางานตามพระ ราชบัญญัตินี้

二. บุคคลซึ่งประสงค์จะทำงาน โดย เรียกหรือรับค่าจ้างเป็นเงินหรือประโยชน์อย่างอื่น

三. ผู้ซึ่งผู้รับอนุญาตจดทะเบียนให้ เป็นตัวแทนจัดหางานตามพระราชบัญญัตินี้

四. ไม่มีข้อถูก

ตอบ ค.ผู้ซึ่งผู้รับอนุญาตจดทะเบียนให้ เป็นตัวแทนจัดหางานตามพระราชบัญญัตินี้

3. พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 มีกี่หมวด กี่มาตรา

一. 6 หมวด 69 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล

二. 7 หมวด 69 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล

三. 6 หมวด 96 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล

四. 7 หมวด 96 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล

ตอบ ง. 7 หมวด 96 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล

4. การจัดตั้งสำนักงานจัดหางานขึ้นในกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เรียกว่าอะไร

一. กรมการจัดหางาน

二. สำนักจัดหางาน กรมการ จัดหางาน

三. บริษัทจัดหางาน

四. สำนักจัดหางาน

ตอบ ข. สำนักจัดหางาน กรมการ จัดหางาน

มาตรา 7 ให้จัดตั้งสำนักงานจัดหางานขึ้นในกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เรียกว่า "สำนักจัดหางาน กรมการ จัดหางาน" มีหน้าที่จัดหางานให้แก่ประชาชนโดยไม่คิดค่าบริการ

5. ห้ามมิให้ผู้ใดจัดหางานให้คนหางานทำงานในประเทศ เว้น แต่จะได้รับใบอนุญาตจากใคร

一. นายทะเบียน

二. คณะกรรมการกองทุน

三. อธิบดีกรมการจัดหางาน

四. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม

ตอบ ก. นายทะเบียน

6. การจัดตั้งสำนักงานทะเบียนจัดหางานกลางขึ้นในกรมการจัด หางาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ใครเป็นผู้มีอำนาจและหน้าที่พระราชบัญญัตินี้

一. นายทะเบียนจัดหางานกลาง

二. ทะเบียนจัดหางานจังหวัด

三. อธิบดีกรมการจัดหางาน

四. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม

ตอบ ก.นายทะเบียนจัดหางานกลาง

มาตรา 6 ให้จัดตั้งสำนักงานทะเบียนจัดหางานกลางขึ้นในกรมการจัด หางาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม โดยมีนายทะเบียนจัดหางาน กลางเป็นผู้มีอำนาจและหน้าที่พระราชบัญญัตินี้
ในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร จะจัดตั้งสำนักงานทะเบียนจัดหา งานจังหวัดขึ้นตรงต่อสำนักงานทะเบียนจัดหางานกลางก็ได้ โดยมีนาย ทะเบียนจัดหางานจังหวัดเป็นผู้มีอำนาจและหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้

7. ข้อใด ไม่ใช่ คุณสมบัติของผู้ขออนุญาตจัดหางานในประเทศ

一. มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์

二. ไม่เป็นผู้รับอนุญาตจัดหางาน

三. ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตจัดหางาน

四. ไม่เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือผู้จัดการของนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้รับ อนุญาตจัดหางาน

ตอบ ก. มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์

มาตรา 9 ผู้ขออนุญาตจัดหางานในประเทศต้องมีคุณสมบัติ และไม่มี ลักษณะต้องห้ามดังนี้
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
(3) ไม่เป็นผู้รับอนุญาตจัดหางาน
(4) ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตจัดหางาน
(5) ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตจัดหางาน
(6) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(7) ไม่เป็นผู้มีหรือเคยมีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีล ธรรมอันดี
(8) ไม่เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือผู้จัดการของนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้รับ อนุญาตจัดหางาน
(9) ไม่เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือผู้จัดการของนิติบุคคลซึ่งถูกเพิกถอน ใบอนุญาตจัดหา